วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คำถามที่พบบ่อย


» กรดไฮยาลูรอนิคคืออะไร?


กรด ไฮยาลูรอนิคเป็นองค์ประกอบหลักของเซลล์ชั้นผิวหนัง เป็นโครงสร้างพื้นฐานของผิวหนังตามร่างกาย คุณสมบัติหลักของกรดไฮยาลูรอยิคคือการป้องกันผิวจากการถูกทำร้ายจากปัจจัย ภายนอก และจัดระเบียบสายอนุพันธุ์คอลลาเจนในชั้นเซลล์ กรดไฮยาลอรูนิคได้รับการยืนยันว่าเป็นกรดสำคัญที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่ม ชื้นให้กับผิว เมื่อผิวเกิดบาดแผลยังทำหน้าที่เป็นตัวสมานแผลให้ผิวคืนสู่สภาพเดิมอีกด้วย คุณสมบัติของกรดไฮยาลูรอนิคมีความสำคัญต่อผิวอย่างปฏิเสธไม่ได้ เราจึงพบว่าเครื่องสำอางค์หลายชนิดในท้องตลาด ได้เพิ่มกรดไฮยาลูรอนิคเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางค์ด้วย



» การเติมฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิค จะอยู่ได้นานเท่าไหร่?


การ เติมฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิคสามารถเห็นผลได้ทันที แต่ผลการรักษาจะอยู่ได้เป็นเวลาเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับประเภทผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ว่ามีความเข้มข้นมากเท่าไหร่ สภาพโครงสร้างผิวหน้าก่อนการรักษา การบำรุงดูแลผิวหลังการรักษา ทั้งหมดล้วนเป็นตัวแปรที่สำคัญทั้งสิ้น โดยทั่วไปแล้ว ผลของการรักษาสามารถอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน



» เมโสเทอราพีคืออะไร?


เม โสเทอราพีเป็นศาสตร์ความงามเพื่อการลดริ้วรอย ยกกระชับผิว Mesotherapy (หรือ Mesolift)เป็นการบำบัดทางชีวภาพ ซึ่งจะเข้าฟื้นฟูปัญหาริ้วรอยและจัดการกับต้นตอของปัญหาผิว เป็นศาสตร์ความงามที่ใช้เข็มที่มีขนาดเล็กมาก สัมผัสกับผิวหนังชั้นนอกเพียงบางเบา นิยมใช้ขจัดริ้วรอยบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ และบริเวณหน้าอก สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เมโสเทอราพีไม่เพียงแต่เป็นการแก้ปัญหาผิวพรรณ แต่ยังช่วยป้องกันการกลับมาของปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย ได้อีกด้วย



» NCTF คืออะไร?

NCTF คือสูตรความงามลิขสิทธิ์คิดค้นจากสถาบัน Filorga ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 53 ชนิด
NCTF® เป็นสูตรบำรุงผิวที่ได้รับการพิสูจน์ว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีในการต่อต้านริ้วรอย โดยสูตรดังกล่าวนี้ ประกอบไปด้วย
- วิตามิน 12 ชนิด
- กรดอะมิโนสำคัญ 23 ชนิด
- โคเอนไซม์ 6 ชนิด
- สารอนุพันธุ์ 5 ชนิด
- แร่ธาตุ 6 ชนิด
- สารต้านอนุมูลอิสระ 1 ชนิด
ผลลัพธ์จากการทดลองใช้พบว่า
147 % เร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ดีกว่า
90 % ยับยั้งการเกิดสารอนุมูลอิสระได้ดีกว่า
256% สารประกอบคอลลาเจนในชั้นผิวเพิ่มมากขึ้น
366% ผิวมีความกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง
ผลการทดลองจากศูนย์วิจัยทางเภสัชศาสตร์ ทดลองโดยอาสาสมัคร 40 คน ภายใต้การแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ***



» การบำบัดผิวด้วยวิธีเมโสเทอราพีเจ็บหรือไม่
เมโสเทอราพีเป็นการบำบัดความงามโดยการใช้เข็ม ในบางรายจะมีอาการเจ็บและแสบเล็กน้อย โดยลักษณ
เข็มที่ใช้จะมีความสั้นและเล็กบางมากไม่ใช่ลักษณะเข็มทั่วๆไป โดยทั่วไปแล้ว ก่อนการทำขั้นตอนบำบัดผิว
ควรใช้ยาชาร่วมด้วย จะทำให้ไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบระหว่างการบำบัด หลังการบำบัด1-2 ชั่วโมงจะหายเป็นปกติ



» การลอกผิวให้ความรู้สึกเจ็บหรือไม่?

การ ลอกผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ Filorga Glykopeel ไม่สร้างความรู้สึกเจ็บแก่ผู้ใช้เลย แต่สารประกอบในผลิตภัณฑ์จะทำปฏิกิริยาบนผิวหนัง ในระหว่างการรักษาอาจมีอาการแสบและคันเกิดขึ้น ซึ่งป็นสัญญาณว่าสารในตัวผลิตภัณฑ์กำลังออกฤทธิ์กับผิวหนังบริเวณนั้น หลังขั้นตอนการลอกผิว จะมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ปรับสภาพผิว เป็นขั้นตอนสุดท้าย



» ผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่มีสภาพผิวประเภทใด?

การ บำบัดผิวด้วยเวชสำอางค์ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ในรายที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ ข้อแนะนำสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง และมีแนวโน้มแพ้ง่าย สามารถเว้นระยะการใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น ในรายปกติสามารถใช้ได้เช้าเย็นเป็นประจำ ผู้ที่มีผิวบอบบาง สามารถใช้อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อลดการกระตุ้นให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง



» การผลัดผิว/ลอกผิวคืออะไร?


การ ผลัดผิว หรืออาจเรียกว่าการลอกผิว คือการใช้เวชสำอางค์ที่ได้รับการรับรอง โดยการทาผลิตภัณฑ์ลงบนชั้นบนของผิวหนัง สามารถใช้ได้ตามบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก เพื่อการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ และเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ในรายที่มีปัญหา เรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้าหรือกระ การลอกเซลล์ผิว มีส่วนช่วยแก้ปัญหาผิวเหล่านี้ให้ลดลงได้



» เซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ (Stem cell) คืออะไร?

เซลล์ ต้นกำเนิด หรืออีกชื่อทางการแพทย์คือ สเต็มเซลล์ คือ เซลล์ที่มีคุณสมบัติในการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนตัวเองได้ (self-renew) และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง (differentiate) ให้กลายเป็นเซลล์อื่นที่ทำหน้าที่หลากหลายได้ (multiple functional cell types)



» ที่มาของเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) มาจากแหล่งใดบ้าง?

หลาย คนคงมีความคิดว่าเซลล์ต้นกำเนิดจะต้องนำมาจากเซลล์ตัวอ่อนเท่านั้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากในร่างกายคนเราก็สามารถพบเซลล์ต้นกำเนิดได้เช่นกัน โดยทั่วไปเราสามารถแบ่งแหล่งที่มาของเซลล์ต้นกำเนิดได้ 3 แหล่งคือ

จากเซลล์ตัวอ่อน ระยะ 'เอ็มบริโอ' ขณะอยู่ในครรภ์ (embryonic stem cell)
จากเซลล์ทารก ระยะ 'ฟีตัส' ขณะอยู่ในครรภ์ (fetal stem cell)
จากเซลล์ของอวัยวะในร่างกายของเรา (adult stem cell)
ใน ร่างกายของเรามีเซลล์ต้นกำเนิดอยู่ภายในไขกระดูกและเนื้อเยื่ออื่นต่างๆ เช่น เซลล์ไขมัน สมอง และกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถนำมาเพาะเลี้ยงเป็นเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อใช้งานได้ ซึ่งปัจจุบันได้มีการศึกษาทดลองอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากความยากในการเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิดให้มีชีวิตรอดนั้นจำเป็นต้อง อาศัย สภาพแวดล้อมที่มีลักษณะเฉพาะ และต้องดูแลอย่างเข้มงวดทุกกระบวนการ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสิทธิมนุษยชน และจริยธรรมทางการวิจัยมากำกับควบคุมอีกด้วย



» การใช้เซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) เพื่อการรักษาโรคโดยตรง (Cell-based approach) ได้อย่างไร?

คือ การใช้เซลล์ต้นกำเนิดเข้าไปซ่อมแซมการทำงานของอวัยวะโดยการฉีดเข้าไปใน อวัยวะนั้นโดยตรง หรือฉีดเข้าไปในกระแสเลือด โดยหวังให้เซลล์ต้นกำเนิดที่ฉีดเข้าไปนั้นเปลี่ยนเป็นเซลล์ที่ต้องการ เพื่อทำหน้าที่ซ่อมแซมต่อไป

โดยจะขอยกตัวอย่างตับเป็นอวัยวะตัวอย่าง เนื่องจากตับนั้นเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ทั้งการควบคุมการแข็งตัวของเลือด กำจัดสารพิษ และสังเคราะห์โปรตีนต่างๆ ในร่างกาย โดยปกติแล้วตับเป็นอวัยวะที่มีความสามารถสูงในการซ่อมแซมตัวเอง (Regeneration) นั่นคือ เมื่อตับเกิดการบาดเจ็บ เซลล์ตับสามารถแบ่งตัวซ่อมแซมตัวเองได้นั่นเอง แต่ในปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนมากที่เป็นโรคตับแข็ง (cirrhosis) ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือ จากการดื่มเหล้าเรื้อรัง หากตับแข็งถึงขั้นรุนแรงจำเป็นจะต้องได้รับการปลูกถ่ายเปลี่ยนตับใหม่ ซึ่งจำนวนตับที่บริจาคไม่เพียงพอ

ดังนั้นการใช้สเต็มเซลล์จึงเป็นทาง เลือกใหม่ในอนาคต โดยการฉีดเซลล์ต้นกำเนิดเข้าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตับ เพื่อให้เซลล์ต้นกำเนิดเข้าไปซ่อมแซม และทดแทนการปลูกถ่ายตับ หรือเพื่อประทังเวลาในช่วงที่รออวัยวะเพื่อปลูกถ่ายตับใหม่



» Embryonic stem cells คือ?

คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่ได้จากตัวอ่อนของมนุษย์ซึ่งเป็นตัวอ่อนตั้งแต่ระยะแรกหลัง จากมีการปฏิสนธิจนถึง 14 วัน ข้อเด่นของ embryonic stem cells คือ เป็นเซลล์ต้นกำเนิด ที่ได้มาจากตัวอ่อนของมนุษย์จึงทำให้มีการเจริญเติบโตและพัฒนาไปเป็นเซลล์ อวัยวะต่าง ๆ ของ ร่างกายได้หลากหลายชนิด เช่น เจริญไปเป็นเซลล์ตับอ่อน ตับ ปอด ไทรอยด์ กระเพาะปัสสาวะ เม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหัวใจ ผิวหนัง สมอง หรือหู เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น