วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Filorga รักษารอยแผลเป็นจากสิว



1. น้ำสะอาด นอกจากจะใช้ล้างหน้าให้สะอาดป้องกันสิวชุดถัดไปแล้ว การดื่มน้ำเยอะๆ ก็ช่วยทำให้แผลเป็นจากสิวหายได้เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ถ้าหากได้รับในปริมาณที่พอเหมาะแล้วก็จะสามารถไปเติมเต็มและซ่อมแซมร่องรอย แผลเป็นต่างๆ ได้

2. น้ำมะนาว บีบน้ำมะนาวสัก 1-2 หยด แต้มลงบริเวณที่เป็นสิวด้วยคอตตอนบัด จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วล้างออก มะนาวจะช่วยทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกมาจากบริเวณจุดด่างดำได้ แต่ถ้าใครผิวไม่แพ้ง่ายล่ะก็สามารถแต้มสิวทิ้งไว้ทั้งคืนเลยค่ะ

3. มะเขือเทศ ฝานมะเขือเทศเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำมาวางบริเวณที่เป็นแผลเป็นวิตามินซีจากมะเขือเทศจะช่วยสมานรอยแผลเป็นได้เป็นอย่างดี

4. สูตรพอกหน้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสูตรมะนาวน้ำผึ้ง น้ำนมโยเกิร์ต หรือผลไม้ต่างๆ ก็แล้วแต่ ขอให้คุณพอกหน้าเป็นประจำคุณค่าจากธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยลดปัญหาเรื่องผิว ทุกชนิดเลยล่ะค่ะ

5. น้ำผึ้ง นำน้ำผึ้งมาทาให้ทั่วใบหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที น้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในผิวและทำให้ผิวดูนวลเนียนขึ้น

6. น้ำมันลาเวนเดอร์ ใช้น้ำมันลาเวนเดอร์แต้มบนแผลเป็นจากสิววันละ 2 ครั้ง ทุกวันจะช่วยทำให้แผลเป็นจากสิวจางลงได้ค่ะ


แต่เมื่อการดูแลผิวตามขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ดั้งนั้นจึงมีการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นทั้งสารเคมีและอันตราย ทำให้เกิดอาการแพ้ และไม่มีการรับรองจากแพ้ผู้เชียวชาญใดๆ

การดูแลผิวหลังจากการเป็นสิว มีทั้งรอยแผลเป็น ริ้วรอย ผิวสูญเสียความอ่อนนุ่ม ผิวหน้าหมองคล้ำ รอยจุดด่างดำที่เกิดจากสิว ผิวขุระไม่เรียบ ปัญหาเหล่านี้ ทาง FILORGA จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ Glykopeelที่เผยผิวใหม่ ดั่งวัยเยาว์ ที่จะได้ผิวที่เนียน กระจ่างใส พร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก และปรับสภาพผิวใหม่ ขาวใส ขึ้นกว่าเดิม

Filorga Glykopeel ได้รับคำยืนยันจากแพทย์ผู้เชียวชาญว่าไมม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง เป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน แม้ในผู้ที่มีผิวหน้าบอบบางแพ้ง่าย

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

FILORGA บำรุงผิวหน้าอย่างไร? ให้คืนความอ่อนเยาว์

เมืองไทยเป็นเมืองร้อน สาวๆ อาจจะรู้สึกว่าผิวขาดน้ำหรือค่อนข้างแห้ง หลายคนก็เจอปัญหาผิวเสีย หมองคล้ำอันเนื่องมาจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ ส่องกระจกทีไร เห็นใบหน้าเหี่ยวย่น รูขุมขนกว้าง มีรอยแดง รอยดำ สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ได้เวลาปฏิวัติและบำรุงผิวหน้ากันแล้ว!! สาวๆ ที่อยากบำรุงผิวหน้า มาดูกันดีกว่าว่ามีผลิตภัณฑ์อะไรบ้างที่จะเป็นตัวช่วยให้สาวๆ ห่างไกลจากปัญหาเหล่านี้




เตรียมผิวเพื่อรับการบำรุงด้วย 

โทนเนอร์ปรับสภาพผิว (Filorga Professional Toner)
หยด โทนเนอร์ลงบนสำลีเช็ดเบาๆ เริ่มจากคางไปลำคอจนทั่วหน้า วันละ 2 ครั้งหลังล้างหน้าตอนเช้าและก่อนนอน การเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ก่อนลงครีมบำรุง จะช่วยให้ครีมบำรุงซึมซาบลงสู่ผิวง่ายและล้ำลึกมากขึ้น ช่วยให้ใบหน้าสะอาด และรู้สึกสบาย หากสาวคนไหนกำลังเป็นสิวควรหลีกเลี่ยงโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวยิ่งแห้ง เร่งการขับไขมันออกมามากขึ้น


ครีมบำรุงสำหรับกลางวัน (Filorga Professional Day Cream) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น ปกป้อง ผิวจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ วิธีการทาครีมบำรุง ควรใช้ปริมาณครีมให้พอเหมาะ ไม่น้อยหรือมากจนเกินไป แต้มครีมตามจุดต่างๆ บนใบหน้า ได้แก่ หน้าผ้า จมูก แก้มสองข้าง และคาง เกลี่ยเป็นบริเวณกว้างให้ทั่วใบหน้า เว้นเฉพาะรอบดวงตา สำหรับครีมบำรุงผิวหน้าตอนกลางวัน อาจเลือกแบบที่ผสมสารกันแดด หรือมีค่า SPF ระบุไว้ หรือครีมที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งที่ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ

ครีมกันแดดผสมวิตามันอี เอสพีเอฟ 50+ (Filorga Professional Sun cream SPF50+) ปก ป้องแสงจากอนุมูลอิสระ ข่วยฟื้นฟูผิว ครีมกันแดด Filogra มีสารช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ทั้งยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิด และวิตามันอีที่มีอยู่ในธรรมชาติ เป็นตัวช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากเซลล์ ช่วยลดการทำร้ายเซลล์ผิวที่เกิดจากการโดนรังสี UVA และ UVB ลดการอักเสบของผิวหนังทั้งยังช่วยซ่อมแซมผิว โดยฟื้นฟูผิวให้มีความชุ่มชื้น ต่อต้านริ้วรอยและช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้าย

ครีมบำรุงสำหรับกลางคืน (Filorga Professional Night Cream) ผิวหน้าของคนเราตอบสนองต่อการฟื้นฟูในขณะหลับได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความเครียดและรบกวนกระบวนการฟื้นฟูของผิว ผิวช่วงวัยเด็กนั้นอาจยังไม่ต้องใช้ครีมบำรุงก่อนนอนก็ได้ เนื่องจากผิวสามารถซ่อมแซมตัวเองได้โดยธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการซ่อมแซมผิวมีประสิทธิภาพลดลง การทาครีมบำรุงก่อนนอน ถือเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะช่วยฟื้นฟูให้เซลล์ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นได้

ครีมบำรุงผิวรอบดวงตา (Filorga eye cream) การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมของร่างกายต่างๆ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ เครียดเป็นประจำ อาการข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิด ได้รับรังสีดวงอาทิตย์มากเกินไป และอายุที่มากขึ้นมีส่วนกระตุ้นให้เอนไซม์ MMP เพิ่มปริมาณมากขึ้น เป็นสาเหตุการเกิดรอยบวมช้ำหมองคล้ำรอบดวงตาคู่สวย การใช้เซรั่มบำรุงผิวรอบดวงตาจะช่วยลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ตา พร้อมบำรุงผิวบริเวณรอบดวงตาให้แข็งแรง
ผิวหน้าดูแลได้ อย่าปล่อยให้สายเกินแก้ เทคนิคในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว คือการเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ที่สำคัญคือใช้แล้วต้องไม่เกิดอาการแพ้ อย่างไรก็ตามพึงระลึกไว้เสมอว่า การจะพึ่งพาแต่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างเดียวคงจะไม่พอ สาวๆ ควรดูแลเรื่องอาหารการกิน ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8-10 แก้ว ออกกำลังกาย เพื่อจิตใจให้แจ่มใสสดชื่น อย่าลืมว่าผู้หญิงต้องสวยมาจากข้างในด้วยนะจ๊ะ